วันศุกร์ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2551

สถานที่ท่องเที่ยว

เกาะมันใน
เป็นทรัพย์สินส่วนพระองค์ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนารถ โดยมีพระราชประสงค์ให้เกาะมันในเป็นที่ดำเนินโครงการสมเด็จฯ อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล


เกาะเสม็ด หรือ เกาะแก้วพิศดาร
ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติ เขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด ต.เพ อ.เมือง ระยอง นับว่าเป็นเพชรน้ำเอกของจังหวัดระยองที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและต่างประเทศ ประกอบด้วยอ่าว และหาดทรายสวยงามมากมาย เช่น หาดทรายแก้ว หาดทรายที่ยาวที่สุด และสวยที่สุดของเกาะ


เขาวง





มีสภาพเป็นภูเขาหินปูนหลายลูกล้อมเป็นวง และเป็นที่ราบอยู่ตรงกลาง บางส่วนเป็นภูเขาสูงชัน และมีหน้าผาชะโงก และมีถ้ำหินงอก หินย้อยที่สวยงาม 80 ถ้ำ เช่น ถ้ำเพชร ถ้ำละคร เป็นต้น

ตลาดบ้านเพ
ตำบลเพ อำเภอเมือง จังหวัดระยอง เป็นท่าเทียบเรือประมง สะพานปลาและที่ตั้งท่าเรือไปเกาะเสม็ด เป็นแหล่งจำหน่ายสินค้าพื้นเมือง ผลิตภัณฑ์อาหารทะเลแหล่งใหญ่ของจังหวัดระยอง เช่นกะปิ น้ำปลา กุ้งแห้ง ปลาหมึก โมบายเปลือกหอย ฯลฯ

น้ำตกเขาชะเมา (น้ำตกคลองน้ำใส)
แยกจากถนนสุขุมวิท กม.274 เข้าไป 16 กม. น้ำตกแห่งนี้มีน้ำไหลตลอดปี มีทั้งหมด 8 ชั้น เช่น วังมัจฉา วังมรกต วังไทรงาม เป็นต้น นักท่องเที่ยวนิยมขึ้นไปที่วังมัจฉา เพราะมีปลาพวงอยู่มาก เป็นวังน้ำขนาดใหญ่ ถือได้ว่าเป็นสัญลักษณ์ของน้ำตกเขาชะเมา

พระเจดีย์กลางน้ำ
ความงดงามแห่งศรัทธาบนเกาะกลางแม่น้ำระยอง ห่างจากตัวเมืองระยองไปทางใต้ 2 กิโลเมตร ปัจจุบันอยู่ในความดูแลของวัดปากน้ำ ในวันเพ็ญเดือน 12 จะมีงานประเพณีห่มผ้าพระเจดีย์ แข่งเรือยาวและงานลอยกระทง ซึ่งได้จัดสืบทอดกันมา 60 กว่าปีแล้ว

พิพิธภัณฑ์หนังใหญ่วัดบ้านดอน
จัดแสดงอยู่ที่วัดบ้านดอน ต.เชิงเนิน อ.เมือง ระยอง มีหนังใหญ่ 120 ตัว อายุกว่า 200 ปี เจ้าเมืองคนแรกของจังหวัดระยอง คือ พระศรีสมุทรโภคชัยโชค ชิตสงคราม (เกตุ ยมจินดา) เป็นผู้ถวายไว้ สนใจเข้าชมพิพิธภัณฑ์กรุณาติดต่อท่านเจ้าอาวาส

วัดป่าประดู่ (พระอารามหลวง)

ตั้งอยู่ที่ ต.ท่าประดู่ อ.เมือง ระยอง เป็นที่ประดิษฐานพระนอนตะแคงซ้าย ซึ่งเป็นพุทธลักษณะพิเศษกว่าพระนอนองค์อื่นๆ สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยา ชาวระยองนิยมมากราบไหว้ขอพรเพื่อเป็นศิริมงคล

ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสิน
ตั้งอยู่ในบริเวณวัดลุ่มมหาชัยชุมพล ต.ท่าประดู่ อ.เมือง ระยอง หน้าศาลมีต้นสะตือ อายุประมาณ 300 ปี สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงนำช้างมาผูกไว้ใต้ต้นสะตือนี้ ครั้งเมื่อเสด็จมารวบรวมไพร่พลเพื่อกอบกู้เอกราช ก่อนจะไปตั้งทัพที่เมืองจันท์ ศาลแห่งนี้เป็นที่เคารพสักการะของชาวเมืองระยอง จึงได้จัดให้มีงานสมโภชประจำปีในช่วงตรุษจีน

สวนสน หรือ สวนรุกขชาติเพ
อยู่ถัดจากบ้านเพ และท่าเรือเกาะเสม็ด ตามถนนเลียบชายหาด สวนสน หรือ สวนรุกขชาติเพเป็นชายหากที่เหมาะแก่การเล่นน้ำ บรรยากาศร่มรื่นด้วยทิวสนทะเลตามสองข้างทาง ให้คุณรู้สึกสดชื่นผ่อนคลาย นอกจากนี้ยังเป็นจุดชมวิวเกาะเสม็ดที่สวยงามอีกจุดหนึ่ง

หอพระพุทธอังคีรส
ตั้งอยู่ที่ สวนศรีเมือง ต.ท่าประดู่ อ.เมือง ระยอง ภายในหอพระ เป็นที่ประดิษฐาน "พระพุทธอังคีรส" พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองระยอง ดังนั้นจึงไม่ควรพลาดที่จะมาสักการะ เพื่อเป็นสิริมงคลสำหรับการเดินทางมาท่องเที่ยวในจังหวัดระยอง


แหลมแม่พิมพ์


ห่างจากตัวเมืองระยอง 48 กม. มีธรรมชาติสวยงามเหมาะแก่การเล่นน้ำ มีบริการที่พักและร้านอาหารตลอดแนวชายหาด

อนุสาวรีย์สุนทรภู่
ตั้งอยู่เลยแหลมแม่พิมพ์ไปทาง อ.แกลง ประมาณ 5 กม. เป็นอนุสาวรีย์ที่สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงท่านสุนทรภู่ กวีศรีรัตนโกสินทร์ เปิดให้เข้าชมได้ทุกวัน

คำขวัญจังหวัดระยอง

คำขวัญจังหวัดระยอง

ผลไม้รสล้ำ อุตสาหกรรมก้าวหน้า น้ำปลารสเด็ด เกาะเสม็ดสวยหรู สุนทรภู่กวีเอก


ผลไม้รสล้ำ



ระยอง ได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่หลากหลายไปด้วยผลไม้นานาชนิด อาทิเช่น ทุเรียน เงาะ สับปะรด
มังคุด มะม่วง กล้วย ลองกอง และบางชนิดได้ชื่อว่ามีรสชาดดีหรืออร่อยที่สุดในโลก ซึ่งได้แก่ ทุเรียน สับปะรด

ผลไม้ 5 ลำดับแรก ที่ทำรายได้สูงสุดให้จังหวัดระยอง ได้แก่

1. ทุเรียน 2. สับปะรด 3. มะม่วง 4. เงาะ 5. มังคุด

จังหวัดระยองได้จัดงาน "เทศกาลผลไม้และของดีจังหวัดระยอง" เป็นประจำทุกปีในช่วงฤดูผลไม้ออกผลประมาณเดือนพฤษภาคมของทุกปี เพื่อเป็นการส่งเสริมการจำหน่ายผลผลิตด้านผลไม้และส่งเสริมการท่องเที่ยวระยะเวลาที่จัดประมาณ 10 วัน มีกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การประกวดขบวนรถผลไม้ การประกวดธิดาชาวสวนการประกวดผลไม้ การแข่งขันรับประทานผลไม้ เนื่องจาก ผลไม้ของจังหวัดระยองมีรสชาด เป็นที่นิยมชมชอบรับประทานของชาวต่างประเทศ ดังนั้น ทาง กรอ.จังหวัดระยอง ร่วมกับหอการค้าจังหวัดระยอง ได้ผลักดันให้มีการส่งผลไม้ไปจำหน่ายยังต่างประเทศ ซึ่งอันได้แก่การส่งสับปะรดไปจำหน่ายยังประเทศสิงคโปร์ ฮ่องกง และยังได้ขอให้รัฐบาลผลักดันให้มีการ เปิดตลาดทุเรียนในประเทศจีน เนื่องจากชาวจีนนิยมรับประทานทุเรียนมาก และจีนมีประชากรนับ พันล้านคน หากเปิดตลาดจีนได้สำเร็จ ต่อไปจีนจะเป็นลูกค้าที่สำคัญรายใหญ่ของประเทศไทย นอกจากนี้ กรอ.จังหวัดระยองยังผลักดันให้มีการส่งทุเรียน ไปจำหน่ายที่ประเทศฮ่องกง โดยใช้สะนามบินอู่ตะเภา แทนสนามบินดอนเมือง ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากกรมการบินพาณิชย์ กระทรวงคมนาคม ได้จัดเที่ยวบินมาขนส่งผลไม้จากสนามบินอู่ตะเภา ซึ่งเริ่มดำเนินการเป็นครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2536 ในช่วงฤดูผลไม้ที่ผ่านมา และปีนี้เป็นปีที่ 4 โดยคาดว่าต่อไปสนามบินอู่ตะเภาจะได้รับการพัฒนาให้เป็นสนามบินพาณิชย์โดย สมบูรณ์แบบอย่างแท้จริง เพื่อเป็นการส่งเสริมผลไม้ไทย บริษัท สุภัทราแลนด์ จำกัด ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สถานฑูตไทย ประจำประเทศสิงคโปร์ สถานฑูตไทยประจำประเทศมาเลเซียและจังหวัดระยอง ได้จัดงาน "ส่งเสริมผลไม้และอาหารไทย" ณ สถานฑูตไทยในประเทศสิงคโปร์และมาเลเซีย สินค้าที่นำไปจำหน่ายมี ทุเรียน เงาะ มะม่วง สับปะรด ส้มโอ มะละกอ ฝรั่ง ทุเรียนกวน สับปะรดกวน ผลไม้และน้ำผลไม้กระป๋อง และอาหารทะเลแห้ง ซึ่งการจัดงานดังกล่าวได้ดำเนินการมาเป็นเวลาหลายปีแล้ว เพื่อเป็นการเผยแพร่ชื่อเสียงด้าน "ผลไม้รสล้ำ" ให้แก่จังหวัดระยองเป็นอย่างยิ่ง และสร้างรายได้ให้เกษตรกรชาวสวนผลไม้ระยอง เพราะแท้จริงแล้วสิงคโปร์นั้นคือตลาดโลก จึงทำให้ผลไม้ของจังหวัดระยองเป็นที่เลื่องลือไปทั่วโลก


อุตสาหกรรมก้าวหน้า



นับ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2524 จังหวัดระยองได้รับการกำหนดบทบาทให้เป็นฐานเศรษฐกิจใหม่ของประเทศที่สนับสนุน การกระจายกิจกรรมทางเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมไปสู่ภูมิภาคอย่างเป็นระบบ ตามโครงการพัฒนาพื้นที่บริเวณชายฝั่งทะเลภาคตะวันออกของรัฐบาลเป็นศูนย์อุตสหกรรมหลัก และอุตสาหกรรมต่อเนื่องอย่างสมบูรณ์ เป็นแหล่งสร้างงานที่สำคัญของประเทศเป็นประตูทางออกในการส่งสินค้า ไปจำหน่ายต่างประเทศให้กับภาคตะวันออกเฉียงเหนือโดยไม่ต้องผ่านกรุงเทพฯ และจังหวัดระยอง ได้รับการกำหนดให้เป็นศูนย์กลางทางการศึกษาและเทคโนโลยี

ทั้งนี้เนื่องจาก จังหวัดระยองอยู่ในทำเลที่มีศักยภาพในการพัฒนาสูง และอยู่ไม่ห่างไกลจากกรุงเทพฯ ประกอบกับจังหวัดระยองได้รับการกำหนดให้อยู่ในเขตส่งเสริมการลงทุนของคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน เขตที่ 3 ซึ่งกิจการที่ลงทุนในเขตพื้นที่นี้ จะได้รับสิทธิประโยชน์สูงสุด ทำให้สามารถดึงดูดการลงทุนจากกรุงเทพฯ เมืองปริมณฑล และใกล้เคียงได้เป็นอย่างดี จึงเป็นผลทำให้จังหวัดระยองมีการพัฒนาด้านเศรษฐกิจ และอุตสาหกรรมอย่างรวดเร็วการพัฒนาอุตสาหกรรมในจังหวัดระยองปัจจุบันจึงเป็นอุตสาหกรรมหลากหลาย ทั้งอุตสาหกรรมการเกษตร เช่น อุตสาหกรรมผลิตน้ำปลา การทำปลาหมึกปรุงรส อุตสาหกรรมปลาป่น อุตสาหกรรมเกี่ยวกับยางพาราอุตสาหกรรมผลิตแป้งมันสำปะหลัง และมีแนวโน้นเปลี่ยนแปลงไปเป็นอุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีสูง และ อุตสาหกรรมปิโตรเคมี เช่น อุตสาหกรรมการผลิตเม็ดพลาสติก อุตสาหกรรมโรงกลั่นน้ำมัน อุตสาหกรรมผลิตไฟฟ้า อุตสาหกรรมผลิตแผงวงจรอิเล็คทรอนิกส์ และมีโรงงานขนาดใหญ่ที่จะเปิดดำเนินการผลิตในระยะอันใกล้นี้หลายกิจการที่สำคัญ ได้แก่ กิจการโรงกลั่นน้ำมัน จำนวน 3 โครงการมูลค่าการลงทุน กว่าหนึ่งแสนห้าหมื่นล้านบาท

โครงการนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด

เป็นโครงการนำร่องภายใต้แผน Eastern Seaboard ที่รัฐบาลได้เตรียมโครงสร้างปัจจัยพื้นฐานไว้อย่างพร้อมเพรียง ได้แก่ ไฟฟ้า ประปา โทรศัพท์ ถนน แหล่งน้ำ ท่าเทียบเรือ จากสถิติการได้รับการส่งเสริมการลงทุนภาคอุตสาหกรรม จาก BOI ที่ผ่านมาเป็นที่ประจักษ์ว่าจังหวัดระยองมีการขอรับ และได้รับการอนุมัติการส่งเสริมการลงทุนมากเป็นอันดับ 1 ของประเทศ และมีแนวโน้มการได้รับการส่งเสริมการลงทุนให้มีการผลักดันความเจริญและการจ้างงานในภูมิภาค ของรัฐบาล จังหวัดระยองจึงมีความเจริญก้าวหน้า ด้านการลงทุนอุตสาหกรรม สามารถเป็นแหล่งรองรับการลงทุน ด้านอุตสาหกรรมผลิตปัจจัย 4 ได้ทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นผลิต เพื่อทดแทนการนำเข้าหรือเพื่อส่งออกตามเป้าหมายของรัฐบาลได้อย่างแน่นอน


น้ำปลารสเด็ด


ที่สุดของน้ำปลาอยู่ที่จังหวัดระยอง กล่าวคือ มีโรรงานน้ำปลามากที่สุดในประเทศ โดยมีถึง 26 โรงงาน จากทั้งหมด 35 โรงงานทั่วประเทศ เงินลงทุน 52.88 ล้านบาท มีคนงานประมาณ 200 คน นอกจากนั้น ยังมีการผลิตน้ำปลาแบบ อุตสาหกรรมในครัวเรือนกระจายกันอยู่ทั่วไป ที่สำคัญน้ำปลาที่ผลิตยังมีรสชาติ แห่งความอร่อยเป็นรสสมกับคำขวัญว่า " น้ำปลารสเด็ด " อย่างแท้จริง

ที่กล่าวว่าระยองเป็นเมืองน้ำปลารสเด็ดนั้น แท้จริงแล้วยังมีความหมายครอบคลุม ไปถึงการประมงทั้งหมด โดยที่จังหวัดระยองมีชายฝั่งทะเลยาวกว่า 100 กิโลเมตร อาชีพดั้งเดิมของชาวระยอง คือการทำประมง ปัจจุบันมีเรือประมง 1,230 ลำ มีเนื้อที่ทำการประมงในทะเล ประมาณ 6,225,000 ไร่ มีครัวเรือนที่ทำการประมง จำนวน 7,275 ครัวเรือน จำนวนชาวประมง 41,569 คน มีมูลค่าการผลิตจากการประมงในปีที่ผ่านมาเท่ากับ 3,535.73 ล้านบาท

นอกจากนั้น ยังมีการเพาะเลี้ยงชายฝั่ง เช่น การเลี้ยงกุ้งกุลาดำ การเลี้ยงสัตว์น้ำกร่อย หรือการเลี้ยงปลาในกระชัง และการเลี้ยงสัตว์น้ำจืด

เกาะเสม็ดสวยหรู



เกาะเสม็ด หรือ เกาะแก้วพิสดาร เพชรเม็ดงามของจังหวัดระยอง ตั้งอยู่ที่หมู่ 4 ตำบลเพ อำเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง รวมพื้นที่ประมาณ 4.5 ไร่ ห่างจากฝั่งบ้านเพ ประมาณ 6.5 กิโลเมตร เป็นแหล่งดึงดูดนักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ มีหาดทรายสวยงามตามธรรมชาติ มีป่าไม้ และภูเขา ที่ธรรมชาติสร้างขึ้นแบบผสมผสานกลมกลืน บรรยากาศสงบเงียบ เหมาะแก่การพักผ่อนหย่อนใจและท่องเที่ยวเกาะเสม็ดนั้น แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนที่เป็นเขตอุทยานแห่งชาติ และส่วนที่ราษฎรอาศัยอยู่เดิม มีสถานที่พักบริการ เช่น บังกาโล รีสอร์ท อยู่เรียงรายริมชายหาด มีสิ่งอำนวยความสะดวกและสาธารณูปโภคในระดับดี ได้แก่ ท่าเทียบเรือเกาะเสม็ด ถนนและทางเดินเท้าคอนกรีตเสริมเหล็ก สระน้ำจืด(สระอโนดาษ) และไฟฟ้า ซึ่งการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จะทำการติดตั้งโรงจักรไฟฟ้าบนเกาะเสม็ด ในปี 2539 โดยมีแผนงานวางเคเบิ้ลใต้น้ำในโอกาสต่อไป

ปัญหาที่สำคัญ

ปัญหาที่สำคัญของเกาะเสม็ดคือ เรื่องขยะ ซึ่งนับวันจะมีมากขึ้น แม้ว่าทางราชการได้จัดสร้างเตาเผาขยะให้แล้วก็ตาม แต่ไม่สามารถกำจัดให้หมดสิ้นได้ ดังนั้น หากจะให้เกาะเสม็ดยังคงคงวามสวยหรู ขึ้นอยู่กับราษฎร ผู้ประกอบการและนักท่องเที่ยวบนเกาะเสม็ด ที่จะต้องช่วยกันรักษาเพชรเม็ดงามเม็ดนี้ไว้ นานแสนนาน



" สวยสะเด็ดเสม็ดแต่ปางก่อน

ยุคครูกลอนสุนทรภู่ท่านเคยเขียน

มาบัดนี้สีสันพลันอิดเอียน

เกาะจวนเจียนเปลี่ยนเป็นเกะเละเพราะคน "



สุนทรภู่กวีเอก


สุนทรภู่ เป็นรัตนกวีสี่แผ่นดิน ในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ตั้งแต่รัชกาลที่ 1 ถึงรัชกาลที่ 4 ได้สร้างผลงานไว้มากมาย สร้างความรุ่งเรืองให้แก่ วรรณกรรมของไทย ต่อมาองค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ ได้ประกาศยกย่องสุนทรภู่ ให้เป็นกวีเอกของโลกสุนทรภู่มีบิดาเป็นชาวกร่ำ เมืองแกลง ซึงในปัจจุบันคือตำบลกร่ำ อำเภอแกลง จังหวัดระยอง จึงถือได้ว่าสุนทรภู่ เป็นชาวระยอง เกิดเมื่อวันที่ 26 มิถุยายน 2329 ณ บริเวณฝั่งธนบุรี ใกล้กับพระราชวังหลัง ในสมัยรัชกาลที่ 1 หลังสร้างกรุงเทพฯ แล้ว 4 ปี สำหรับมารดานั้นยังไม่ปรากฎหลักฐานแน่ชัดว่าเป็นชาวเมือง ใด "นิราศเมืองแกลง" เป็นนิราศเรื่องแรกที่สุนทรภู่แต่งขึ้นในคราวที่เดินทางไปหาบิดา ที่เมืองแกลง ปี พ.ศ.2349 ซึ่งบิดาได้บวชเป็นพระภิกษุอยู่ที่วัดบ้านกร่ำ เมื่อคราวตามเสด็จพระองค์เจ้าปฐมวงศ์พระราชโอรสพระองค์เล็กในสมเด็จกรมพระราชวังหลัง (สมเด็จเจ้าฟ้ากรมหลวงอนุรักษ์เทเวศร์)ไปพระพุทธบาทสุนทรภู่ได้แต่ง "นิราศพระบาท" ขึ้นในปี พ.ศ.2350 ขณะอายุได้ 21 ปี
สุนทรภู่ได้แต่งงานกับ "จัน" มีลูกชาย 1 คนชื่อ "หนูพัด" แต่อยู่กันได้ไม่นานต้องเลิกลากันไป เพราะสุนทรภู่เป็นสิงห์ขี้เมา ต่อมาได้ภรรยาอีกคนเป็นชาวสวนบางกรวยชื่อ "นิ่ม" มีลูกชายด้วยกัน 1 คน ชื่อ "ตาบ" แต่นิ่มได้ป่วยและเสียชีวิตเมื่อลูกยังเล็ก ๆ กลอนนิทานเรื่องแรกที่สุนทรภู่แต่งคือเรื่อง "โคบุตร" ความยาว 28 เล่มสมุดไทย แต่งถวายพระองค์เจ้าปฐมวงค์ ซึ่งได้รับความนิยมมาก
ครั้นปี พ.ศ. 2358 สุนทรภู่ได้แต่งนิทานคำกลอนขึ้นอีกเรื่องหนึ่งคือ "พระอภัยมณี"ความยาวประมาณ 94 เล่มสมุดไทยซึ่งคณะละครของนายบุญยังนำไปแสดงทำให้ชื่อเสียงของสุนทรภู่เลื่องลือ ไปทั่วกรุงเทพฯ และหัวเมืองใกล้เคียงสุนทรภู่มีชีวิตรุ่งเรืองมากในสมัยพระบาทสมเด็จ
พระพุทธเลิศหล้านภาลัย(รัชกาลที่ 2) ซึ่งทรงโปรดปรานบทกวีมาก ครั้งหนึ่งสุนทรภู่ได้แต่งต่อ
บทกวีนิพนธ์เรื่อง "รามเกียรติ์" ตอนนางสีดาผูกคอตาย ปรากฎว่าเป็นที่พอพระทัยของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย เป็นอย่างยิ่ง และทรงโปรดแต่งตั้งให้เป็นขุนสมุทรโวหาร เป็นกวีที่ปรึกษา ต่อมาสุนทรภู่ได้แต่งสุภาษิตคำกลอนเรื่อง "สวัสดิรักษา" มีความยาว 1 เล่มสมุดไทย ใน พ.ศ.2367 ถวายพระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้าอาภรณ์ พระโอรสในรัชกาลที่ 2 ครั้นสมัยรัชกาลที่ 3 สุนทรภู่ได้ถูกทอดออกจากตำแหน่งขุนสุนทรโวหาร สุนทรภู่จึงออกบวช ในปี พ.ศ.2367 ณ วัดระฆังโฆสิตาราม แต่มาจำพรรษา ณ วัดราชบูรณะ(วัดเลียบ) ในขณะที่บวชได้แต่ง "นิราศภูเขาทอง" สำหรับนิทานคำกลอนที่สุนทรภู่แต่งค้างไว้ในสมัยรัชกาลที่ 2 นั้น ได้นำออกมาแต่งต่อ ได้แก่ เรื่อง "สิงหไกรภพ" และเรื่อง "ลักษณวงศ์" เป็นต้น
ครั้นรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว(รัชกาลที่ 4) สุนทรภู่ได้กลับเข้ารับราชการอีกครั้งมีบรรดาศักดิ์เป็น "พระสุนทรโวหาร" รับราชการอยู่เพียง 4 ปีเศษ ก็ถึงแก่อนิจกรรม เมื่อปี พ.ศ. 2398 อายุ 69 ปี
จังหวัดระยอง ได้จัดสร้างอนุเสาวรีย์สุนทรภู่ไว้ที่ ตำบลกร่ำ อำเภอเมืองแกลง จังหวัดระยองและได้จัดงาน "วันสุนทรภู่" ขึ้นเป็นประจำทุกวันที่ 26 มิถุนายนของทุกปี เพื่อรำลึกถึงท่านสุนทรภู่กวีเอกของโลก

ตราสัญลักษณ์ประจำจังหวัดระยอง

คลิกที่รูปเพื่อเพิ่มขนาด

สภาพทั่วไป

จังหวัดระยองมีพื้นที่ประมาณ 3,552 ตารางกิโลเมตร หรือ 2,220,000 ไร่ ตั้งอยู่ในภาคตะวันออก ของประเทศไทยระหว่างเส้นรุ้งที่ 12-13 องศาเหนือ และเส้นแวงที่ 101-102 องศาตะวันออก ห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ 179 กิโลเมตร

ประวัติจังหวัดระยอง

ประวัติความเป็นมาของจังหวัดระยอง

ระยอง เริ่มปรากฎชื่อในพงศาวดารเมื่อปี พ.ศ.2113 ในรัชสมัยของสมเด็จพระมหาธรรมราชาแห่งกรุงศรีอยุธยา โดยมีประวัติดั้งเดิมตามข้อสันนิษฐานว่า น่าจะก่อตั้งเมืองขึ้นเมื่อประมาณ พ.ศ. 1500 ยุคที่ขอมมีอนุภาพเฟื่องฟูแถบดินแดนสุวรรณภูมิ นักโบราณคดีได้สันนิษฐานจากหลักฐานที่พบ คือ ซากศิลาแลงคูค่าย ที่ยังหลงเหลืออยู่ในเขตอำเภอบ้านค่าย อันเป็นศิลปะการก่อสร้างแบบขอม โดยในสมัยโบราณ ระยองมีชนพื้นเมืองคือชาวซอง ซึ่งเป็นเผ่าที่อาศัยอยู่กระจาย โดยทั่วไปในภาคตะวันออก ในประวัติศาสตร์ตอนหนึ่งได้กล่าวถึงเมืองระยองในปลายสมัยกรุงศรีอยุธยา ระหว่างที่กรุงศรีอยุธยาใกล้จะเสียแก่พม่าเป็นครั้งที่ 2 ในสมัยพระเจ้าเอกทัศน์ ในเดือนยี่ปี พ.ศ.2309 พระยาวชิรปราการ หรือ พระยาตาก พร้อมไพร่พลประมาณ 500 คน ได้ตีฝ่าวงล้อมทัพพม่า มุ่งสู่ตะวันออกมาหยุดพักไพร่พลที่เมืองระยอง และได้ปราบปรามคณะกรมการเมืองที่แข็งข้อยึดเมืองระยองได้ จากความสามารถครั้งนั้น เหล่าทหารจึงยกย่องให้เป็น "เจ้าตากสิน" ก่อนเดินทัพไปยังเมืองจันทบุรี เพื่อยึดที่ดินในการกอบกู้อิสรภาพคืนจากพม่าได้ในปี พ.ศ.2113




ตราประจำจังหวัดระยอง



ธงประจำจังหวัดระยอง